การเขียนพู่กันจีน หรือ 书法(ซูฝ่า) เป็นศิลปะชั้นสูงอย่างหนึ่งของจีนที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ มีกำเนิดในสมัยราชวงศ์ซางเมื่อ 3,000 ปีมาแล้ว การเขียนพู่กันจีนไม่ใช่เพียงแค่การใช้พู่กันจุ่มหมึกแล้ววาดตัวอักษรลงไปในกระดาษเท่านั้น แต่การจะเขียนได้ ศิลปินต้องรู้ซึ้งถึงความหมายของตัวอักษรเป็นอย่างดี และมีสมาธิจดจ่อกับผลงาน เพื่อบรรจงถ่ายทอดเรื่องราวผ่านลายเส้นที่ขีดเขียนลงบนกระดาษด้วยเทคนิคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การลงน้ำหนัก การตวัดมือ จังหวะการยกมือ ทั้งหมดล้วนมีผลกับงานที่ออกมา แล้วยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์และสะท้อนความเป็นตัวตนผ่านผลงานออกมาอีกด้วย ทำให้ตัวอักษรจากพู่กันจีนนั้นสามารถสอดแทรกความหมายแฝงได้ไม่ต่างจากภาพวาด
ในอดีตนั้นลายมือการเขียนพู่กันจีนนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญในการใช้วัดภูมิปัญญาและความสามารถของผู้คน อย่างการคัดคนเข้ารับราชการในวังหลวง หากเป็นคนที่มีลายมือการคัดพู่กันได้ประณีตสวยงาม ก็จะมีภาษีดีกว่าผู้อื่น สำหรับนักปราชญ์หรือนักกวีเอง ก็สามารถเพิ่มอารมณ์และคุณค่าให้แก่ผลงานได้โดยการใช้วิธีเขียนแบบพู่กันจีนเพื่อสื่ออารมณ์และความรู้สึกผ่านตัวอักษรออกมา สิ่งเหล่านี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเขียนพู่กันจีนในสมัยก่อน หรือแม้แต่ในปัจจุบันเอง
การเขียนพู่กันจีนก็ยังคงได้รับการยกย่องให้เป็นผลงานอันทรงคุณค่า ยังคงมีการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆขึ้นมาให้ผู้คนได้ชื่นชม หาซื้อไปเก็บสะสมไว้เหมือนกับงานศิลปะแบบอื่น
ในส่วนของอุปกรณ์สำหรับใช้เขียนพู่กันจีนนั้นถูกเรียกว่า 文房四宝 wénfángsìbǎo(เหวินฝางซื่อเป่า) ที่มีความหมายว่า รัตนะทั้งสี่ในห้องสมุด ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาวจีน อันได้แก่
毛笔 Máobǐ (เหมาปี่) พู่กันจีน
墨 Mò (ม่อ) หมึกสีดำ
纸 Zhǐ (จื่อ) กระดาษ
砚 Yàn (เยี่ยน) แท่นฝนหมึก
- 毛笔 Máobǐ (เหมาปี่) พู่กันจีน ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของจิตรกรออกมาบนผลงาน พู่กันจีนจึงมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากการนำขนสัตว์มาใช้ทำพู่ อย่าง ขนกระต่าย ขนแพะ หรือขนสุนัขจิ้งจอก ซึ่งทำให้ลายเส้นขณะเขียนมีความละเอียดมากกว่าการใช้ปากกาหรือพู่กันแบบอื่น ๆ ส่วนของด้ามจับมักนิยมทำมาจากไม้ไผ่
- 墨 Mò (ม่อ) หมึกสีดำ ทำมาจากเขม่าที่เกิดจากการเผาไม้สน และน้ำมันที่นำมาปั้นเป็นก้อนหรือแท่ง เพื่อนำมาฝนกับที่ฝนน้ำหมึก แต่ในปัจจุบันมักนิยมใช้น้ำหมึกจากขวดแทน
- 纸 Zhǐ (จื่อ) กระดาษ ถูกคิดค้นโดยชาวจีนมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในสมัยราชวงศ์ถังและซ่งได้มีการผลิตกระดาษชนิดพิเศษออกมา ซึ่งมีคุณสมบัติ มีเนื้อสีขาว นุ่ม ละเอียด กระจายหมึกได้สม่ำเสมอ ชัดเจน และไม่เปื่อยง่าย เหมาะแก่การนำมาใช้เขียนพู่กันจีน โดยส่วนใหญ่มีส่วนผสมของฟางข้าวและข้าว และมีระดับความหนาบางโดยเรียกว่า สุก ดิบ และกึ่งสุก
- 砚 Yàn (เยี่ยน) แท่นฝนหมึก เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมายาวนานพอ ๆ กับศิลปะการเขียนพู่กัน มีบทบาททั้งในงานเขียนอักษรและงานภาพวาด ลักษณะเป็นแท่นหินทำมาจากหินเนื้อละเอียด นิยมนำมาแกะสลักเพื่อเพิ่มความสวยงามและถือเป็นงานศิลปะไปในตัว วิธีใช้คือนำน้ำมาหยดใส่บนแท่นฝนหมึกเล็กน้อย จากนั้นจึงนำแท่งหมึกมาฝนจนได้ความเข้มข้นของหมึกตามต้องการ
นอกเหนือจากรัตนะทั้ง 4 แล้วก็ยังมีอุปกรณ์เพิ่มเติมอื่น ๆ อย่าง ที่วางพู่กัน หินทับกระดาษ ที่แขวนพู่กัน และกระบอกใส่พู่กัน เป็นต้น